ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 85.40 จุด วิตกเฟดขึ้นดบ.,ECB ลดวงเงิน QE

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 5, 2016 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อังกฤษเตรียมแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,168.45 จุด ลดลง 85.40 จุด หรือ -0.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,289.66 จุด ลดลง 11.21 จุด หรือ -0.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,150.49 จุด ลดลง 10.71 จุด หรือ -0.50%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ด้านนางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. แม้ว่าการประชุมจะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐวันที่ 8 พ.ย. เพียงไม่กี่วัน พร้อมกับเน้นย้ำว่า การเมืองไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟด ขณะเดียวกันตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของ Brexit หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า เธอจะเริ่มกระบวนการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.2560

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นสวนทางการติดลบของตลาด โดยหุ้นดอยช์แบงก์ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากแหล่งข่าวระบุว่า ดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งหากรายงานข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ค่าปรับที่ดอยซ์แบงก์จะต้องจ่ายต่อทางสหรัฐก็จะลดลงเป็นอย่างมากจากระดับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องในเบื้องต้น

ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับขึ้น 0.8% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดตัวขึ้น 0.7% เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ภาคธนาคารของสหรัฐจะกำไรเพิ่มขึ้นหากเฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้น 0.5% หลังจากบริษัทเปิดตัวสมาร์ทโฟน "Pixel" และระบบ "Google Home" ส่วนหุ้นแอปเปิล อิงค์ ดีดตัวขึ้น 0.5% นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ