ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงภาคบ่าย เหตุวิตกกระแสคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายหลังจากที่ประธานเฟด 3 สาขาได้ออกมาประสานเสียงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 28,425.74 จุด เพิ่มขึ้น 91.19 จุด, +0.32% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,796.21 จุด เพิ่มขึ้น 106.77 จุด, +0.45% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,663.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด, +0.15%

สำหรับข่าวที่เป็นประเด็นและส่งผลกระทบต่อตลาด ได้แก่ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า

ทางด้านนายไมเคิล สทีน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาเปิดเผยผ่านการทวีตข้อความว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของ ECB ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร

เมื่อวานนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 3 สาขา ประสานเสียงหนุนเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อวานนี้ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก้ กล่าวที่โอ๊คแลนด์ว่า ควรจะมีการปรับขึ้นต้นทุนในการกู้ยืมอย่างเร็วที่สุดในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้

ขณะที่นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ก็ต้องการให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นสถานการณ์ที่บีบให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามมาในภายหลัง

ทั้งนี้ นายแลคเกอร์กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม

ด้านนางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. แม้ว่าการประชุมจะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐวันที่ 8 พ.ย. เพียงไม่กี่วัน พร้อมกับเน้นย้ำว่า การเมืองไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟด