ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 12.53 จุด นักลงทุนชะลอเทรดก่อนสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 7, 2016 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,268.50 จุด ลดลง 12.53 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,306.85 จุด ลดลง 9.17 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,160.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.04 จุด หรือ +0.05%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ โดยนักลงทุนจับตาดูข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเนื่องจากจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

สำหรับข้อมูลด้านแรงงานที่มีการเปิดเผยไปแล้วนั้น รวมถึงรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลดลง 5,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. สู่ระดับ 249,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.

ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าระดับ 181,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในปีนี้ รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง

หุ้นทวิตเตอร์ทรุดตัวลง 20% หลังจากมีกระแสข่าวว่า บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งรวมถึง กูเกิล, แอปเปิล และดิสนีย์ ต่างก็ไม่มีแผนที่จะเสนอราคาประมูลซื้อกิจการของทวิตเตอร์

หุ้นมายแลน อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 3% เนื่องจากความวิตกกังวลว่าทางบริษัทจะถูกทางการสหรัฐสอบสวนในกรณีปรับขึ้นราคา "EpiPen" ในอัตราที่สูงเกินไป โดยยาดังกล่าวใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง

หุ้นวอลมาร์ท ดิ่งลง 3.2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลปประกอบการในปีหน้า และระบุว่ายังไม่มีแผนที่จะขยายธุรกิจ

ขณะที่หุ้น Yum Brands ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ฟ้าสฟู้ดชื่อดังอย่าง KFC และ Pizza Hut ปรับตัวลง 1.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่น้อยกว่าการคาดการณ์

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB และนายวิคเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธาน ECB ต่างก็ออกมายืนยันว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของ ECB ไม่ได้มีการหารือกันในประเด็นปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า

การยืนยันดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ ECB ว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงิน QE ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยคาดว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงินลง 1 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ