ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 200 จุด ขณะที่ถูกถ่วงลงจากหุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนผิดหวังต่อการประกาศผลประกอบการของอัลโค อิงค์ และตลาดยังถูกกดดันจากการอ่อนตัวลงของราคาน้ำมัน
ณ เวลา 00.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,129.34 จุด ลดลง 199.70 จุด หรือ 1.09% หลังจากทรุดตัวลงกว่า 200 จุดก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นบริษัทอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐ ทรุดตัวลงอย่างหนักเกือบ 8% ในวันนี้ หลังเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3
อัลโคเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 32 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 3 ขณะที่มีรายได้ 5.21 พันล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมีกำไร 35 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 3 ขณะที่มีรายได้ 5.31 พันล้านดอลลาร์
ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจต่อการบรรลุข้อตกลงลดการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
นายอิกอร์ เซชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ระบุว่า บริษัทของเขาจะไม่ปรับลดกำลังการผลิต หรือตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีข้อตกลงดังกล่าว
นายเซชินนับเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในธุรกิจน้ำมันรัสเซีย และที่ผ่านมา เขามักมีท่าทีขัดแย้งกับกลุ่มโอเปก
นายเซชินแสดงความไม่มั่นใจว่าบางประเทศในกลุ่มโอเปก เช่น อิหร่าน และซาอุดิอาระเบีย จะปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง
นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลจะทำให้ผู้ผลิตน้ำมัน shale oil ในสหรัฐ กลับมามีกำไรจากการผลิตน้ำมัน
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงานวิจัยว่า ถึงแม้รัสเซียให้ความร่วมมือกับกลุ่มโอเปกในการลดการผลิตน้ำมัน แต่ตลาดน้ำมันอาจจะไม่มีการปรับตัวสู่ระดับสมดุลจากความร่วมมือดังกล่าว
รายงานระบุว่า แม้รัสเซียจะจับมือกับโอเปกในการลดกำลังการผลิต แต่การที่ลิเบีย,ไนจีเรีย และอิรักอาจปรับเพิ่มกำลังการผลิต ก็จะลดทอนผลบวกจากการที่รัสเซียและโอเปกลดการผลิต
โกลด์แมน แซคส์เตือนว่า ยังคงเป็นการเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะร่วมมือกันลดกำลังการผลิต