ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีปิดเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันก่อน
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 26.62 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 7,070.88 จุด
แรงเทขายทำกำไรได้ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลง หลังจากหุ้นกลุ่มบลูชิปทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายระหว่างวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลปอนด์และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก
แต่อย่างไรก็ดี ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลดลงหลังจากนั้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความไม่แน่นอนที่ว่า การอ่อนค่าของเงินสกุลปอนด์จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอังกฤษหรือไม่นั้น ส่งผลให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นลอนดอนยังไม่มีความยั่งยืน
หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.5% เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรารายอื่นๆของยุโรป หลังจากบริษัทหลุยส์ วิตตอง (LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton) ของฝรั่งเศสระบุว่า ยอดขายในตลาดเอเชียส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง 9 เดือนแรกของปี
หุ้นไวท์เบรียด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Costa Coffee และมีจีนเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของบริษัท ปรับตัวขึ้น 3.2% ในขณะที่หุ้นเนกซ์ ผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ของอังกฤษเพิ่มขึ้น 3.9%