ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 45.26 จุด วิตกเฟดขึ้นดบ.,ศก.จีนอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 14, 2016 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากทางการจีนเปิดเผยตัวเลขการค้าที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,098.94 จุด ลดลง 45.26 จุด หรือ -0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.33 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.49% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,132.55 จุด ลดลง 6.63 จุด หรือ -0.31%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน โดยสำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% เทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2%

ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลง 1.6% และยอดนำเข้าลดลง 2.3%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น มีความวิตกว่าการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของธนาคารดอยซ์แบงก์ และกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในธนาคารเวลส์ ฟาร์โก โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.2% หุ้นแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน ดิ่งลง 2.6% ส่วนหุ้นเวลส์ ฟาร์โก หุ้นเจพีมอร์แกน เชส และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ต่างก็ปรับตัวลงถ้วนหน้า

หุ้นแมริออท แวเคชันส์ เวิล์ดไวด์ กรุ๊ป ร่วงลง 8.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าการคาดการณ์ของตลาด

ขณะที่หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปิดตลาดดีดตัวขึ้น 1.6% หลังจากร่วงลงในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในการประชุมเศรษฐกิจครั้งที่ 60 ของเฟดสาขาบอสตัน ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อจับความเคลื่อนไหวว่าประธานเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "The Elusive Recovery"

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 246,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ย. โดยขยับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน หลังเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ขณะที่ราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และร่วงลง 1.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2014


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ