ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลปอนด์
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 22.75 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 6,753.18 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินปอนด์ และการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน โดยหุ้นบาร์เคลย์สพุ่งขึ้น 5.2% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ เพิ่มขึ้น 4.4% และหุ้นลอยด์สเพิ่มขึ้น 1.8%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ จากการคาดการณ์ที่ว่า อุปสงค์ในโลหะอุตสาหกรรมจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนายทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ วางแผนที่จะปรับปรุงถนน สนามบิน และโครงสารสาธารณูปโภคอื่นๆให้ดีขึ้น รวมทั้งรายงานของจีนที่ระบุว่า การลงทุนในทรัพย์สินถาวรของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.3% ในระหว่างเดือนม.ค.-ต.ค. ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้หุ้นเกลนคอร์ปรับตัวขึ้น 1.2% ในขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่มขึ้น 1.8%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.ได้หรือไม่ โดยหุ้นรอยัล ด้ทช์ เชลล์ ลดลง 1% และหุ้นบีพีลดลง 0.4%