ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นปิดเหนือระดับ 19,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 341.02 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,713.85 จุด เพิ่มขึ้น 28.72 จุด หรือ +0.27% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,548.35 จุด เพิ่มขึ้น 18.77 จุด หรือ +0.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,819.72 จุด เพิ่มขึ้น 41.76 จุด หรือ +0.62%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 7.6% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 7% และหุ้นอาร์เซล มิททัล พุ่งขึ้น 4.9%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 19,000 จุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากความเชื่อมั่นที่ว่า นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะช่วยกระตุ้นภาคส่วนต่างๆในระบบเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่การลงประชามติเกี่ยวกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลีจะมีขึ้นในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี หลุดจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่า การลาออกของนายเรนซีจะยิ่งสร้างความยากลำบากในการแก้ไขปัญหาในภาคธนาคารของอิตาลี