ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี ได้ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งรวมถึงการปรับลดจำนวนพนักงานและการตัดขายหุ้นบางส่วน
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 357.50 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,803.87 จุด เพิ่มขึ้น 43.10 จุด หรือ +0.91% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,284.65 จุด เพิ่มขึ้น 94.44 จุด หรือ +0.84% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,284.65 จุด เพิ่มขึ้น 94.44 จุด หรือ +0.84%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากหุ้นของธนาคารอิตาลีปรับขึ้น โดยหุ้นยูนิเครดิต ทะยานขึ้น 16% ภายหลังจากธนาคารได้ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งรวมถึงการปรับลดจำนวนพนักงานลงอีก 6,500 ตำแหน่งภายในปี 2562 และการตัดขายหุ้นบางส่วน โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูกิจการของธนาคาร
การพุ่งขึ้นของหุ้นยูนิเครดิตช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับขึ้น 2.3% หุ้นบาร์เคลย์ส เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ เพิ่มขึ้น 1.3%
หุ้น Anheuser-Busch InBev (เอบี อินเบฟ) ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทอาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิ้งของญี่ปุ่น จะเข้าซื้อแบรนด์เบียร์ 5 แบรนด์ในยุโรปตะวันออกของเอบี อินเบฟ คิดเป็นมูลค่าราว 7.3 พันล้านยูโร หุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เจฟเฟอรีส์ ได้แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นดังกล่าว สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปซึ่งมีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน แม้ธนาคารกลางยุโรปได้พยายามกระตุ้นราคาผู้บริโภคในประเทศต่างๆของยูโรโซนก็ตาม ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.1%