ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 13.90 จุด นักลงทุนขายทำกำไรก่อนสิ้นปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 30, 2016 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ภาวะการซื้อขายในช่วงปลายปีเป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้ว่าสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างเป็นบวก ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,819.78 จุด ลดลง 13.90 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,432.09 จุด ลดลง 6.47 จุด หรือ -0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,249.26 จุด ลดลง 0.66 จุด หรือ -0.03%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ภาวะการซื้อขายในช่วงปลายปีเป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้ว่าทางการสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเป็นบวกเมื่อคืนนี้ก็ตาม โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. สู่ระดับ 265,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และนับเป็นสัปดาห์ที่ 95 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2514 ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 5.945 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 1.2% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ การที่ภาคธุรกิจเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการค้าเดือนพ.ย.ของสหรัฐออกมาค่อนข้างอ่อนแอ โดยยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 5.5% หรือ 3.4 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 6.53 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้ายังคงสูงกว่ายอดส่งออก โดยยอดส่งออกสินค้าในเดือนพ.ย.ลดลง ลดลง 1.2 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 1.217 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.870 แสนล้านดอลลาร์

หุ้นเซียร์ส โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 10% หลังจากมีรายงานว่า ทางบริษัทได้รับวงเงินกู้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัวภายในองค์กร

ส่วนหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ปรับตัวขึ้น 7.6% ขณะที่หุ้นฟอร์เทรส ไบโอเทค ทะยานขึ้น 21% หลังจากบริษัทประกาศความคืบหน้าในการพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ