ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 60.40 จุด หลังเฟดเผยรายงานการประชุม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 5, 2017 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วขึ้นเนื่องจากมาตรการกระตุ้นการคลังของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังจากบริษัทรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และฟอร์ด มอเตอร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,942.16 จุด เพิ่มขึ้น 60.40 จุด หรือ +0.30% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,477.00 จุด เพิ่มขึ้น 47.92 จุด หรือ +0.88% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,270.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.92 จุด หรือ +0.57%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยปัจจัยล่าสุดที่หนุนตลาดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ มาจากรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของเฟดที่ระบุว่า แม้นโยบายต่างๆของนายทรัมป์ยังไม่มีความแน่นอนในขณะนี้ แต่ก็คาดว่านโยบายกระตุ้นการคลังของนายทรัมป์จะส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้นด้วย และสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่รวดเร็วขึ้น

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โวยา ไฟแนนเชียลกล่าวว่า รายงานการประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า คณะกรรมการเฟดมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และพร้อมที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้ออกแสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐในการประชุมเมื่อเดือนธ.ค.ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโตจนใกล้บรรลุเป้าหมายการผลักดันการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ

หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกด้วย โดยหุ้นจีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 10% ขณะที่หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นเทสลา มอเตอร์ส ปรับตัวขึ้น 4.6%

หุ้น Amazon.com ปรับตัวขึ้น 0.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลวันหยุด

หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 7.6% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาโลหะทองแดง

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.โดยมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค.โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนธ.ค., ยอดนำเข้า,ส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ