ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 122.65 จุด วิตกนโยบาย"ทรัมป์"กระทบความสัมพันธ์ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 31, 2017 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหนักสุด หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อระงับการเข้าสหรัฐของพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิม ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,971.13 จุด ร่วงลง 122.65 จุด หรือ -0.61% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,613.71 จุด ลดลง 47.07 จุด หรือ -0.83% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,280.90 จุด ลดลง 13.79 จุด หรือ -0.60%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันตั้งแต่เปิดทำการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อระงับการผ่านเข้าประเทศสหรัฐของพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม ซึ่งได้แก่ ซีเรีย เยเมน ซูดาน โซมาเลีย อิรัก อิหร่าน และลิเบีย เป็นเวลา 90 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยจากทุกประเทศเข้าสหรัฐ เป็นเวลา 120 วัน

มาตรการดังกล่าวของทรัมป์ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี สองชาติพันธมิตรของสหรัฐที่ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อการตัดสินใจของทรัมป์ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองจากหลายฝ่ายยังแสดงความกังวลว่า มาตรการดังกล่าวของทรัมป์อาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหนักสุด หลังจากมีรายงานว่า คำสั่งระงับพลเรือนจาก 7 ชาติมุสลิมไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐนั้น ส่งผลให้เกิดความโกลาหลและการประท้วงที่สนามบินหลายแห่งในสหรัฐ โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 4.1% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส ดิ่งลง 4.4% หุ้นยูเอส โกลบอล เจ็ท ปรับตัวลง 2.1% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล ร่วงลง 3.6%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 1% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นคาโบท์ ออยล์ แอนด์ ก๊าซ ร่วงลง 5% หุ้นทรานส์โอเชียน ดิ่งลง 5.1% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ลดลง 5.3% หุ้นเรนจ์ รีซอสเซส ร่วงลง 5%

นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี

ลีโอ โกรฮาวสกี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบีเอ็นวาย เมลลอน เวลท์ แมเนจเมนต์ คาดการณ์ว่า มีโอกาสน้อยที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หรือในเดือนมี.ค. แต่เขาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และจะปรับขึ้น 2-3 ครั้งในปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊ก และแอปเปิล อิงค์ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมทั้งจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.โดยเอสแอนด์พี/เคสชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.โดย Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ