ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเป็นวันที่ 3 ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งเพื่อระงับการเข้าสหรัฐของพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 22.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,841.93 จุด ลดลง 129.13 จุด หรือ 0.64%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโบอิ้งร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ปธน.ทรัมป์ได้จัดการประชุมร่วมกับผู้บริหารจากอุตสาหกรรมยาในวันนี้ที่ทำเนียบขาว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับราคายาที่แพงเกินไป
บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทพลิกมีกำไรสุทธิ 775 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 หลังจากที่ขาดทุน 172 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2015
ไฟเซอร์ระบุว่า บริษัทมีกำไร 13 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 4 แต่หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในรายการพิเศษ บริษัทมีกำไร 47 เซนต์/หุ้น โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 50 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 1.363 หมื่นล้านดอลลาร์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.355 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทเอ็กซอน โมบิล คอร์ป เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 ที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เอ็กซอน โมบิล ระบุว่า บริษัทมีกำไร 41 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 70 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 6.102 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.228 หมื่นล้านดอลลาร์
เอ็กซอน โมบิล เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการตัดค่าเสื่อมทางบัญชี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์จะเปิดเผยยอดขาย iPhone ที่มีการขยายตัวในไตรมาส 4 หลังจากที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 3 ไตรมาส
อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรของทางบริษัทจะยังคงถูกกดดัน โดยนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรต่อหุ้นจะลดลงสู่ระดับ 3.23 ดอลลาร์
ทั้งนี้ แอปเปิลจะเปิดเผยผลประกอบการ หลังเวลาตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในวันนี้