ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบภาคบ่ายวันนี้ ในขณะที่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในยุโรปและนโยบายเศรษฐกิจที่ยังไม่มีความชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อตลาด
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 28,349.22 จุด เพิ่มขึ้น 59.30 จุด, +0.21% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,575.91 จุด เพิ่มขึ้น 90.78 จุด, +0.39%
ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ (9 ก.พ.) เนื่องในเทศกาลไทปูซัม (Thaipusam)
ข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งเอเชียที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือนธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.7% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 8.898 แสนล้านเยน
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้อเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคเนื่องจากเป็นตัวเลขที่ผันผวนนั้น เป็นมาตรวัดการใช้จ่ายในอนาคตของบริษัทเอกชน
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการเงินในวันนี้ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มฟื้นตัวและเคลื่อนไหวใกล้ระดับเป้าหมายของธนาคารกลาง
ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยรายปีของนิวซีแลนด์อยู่ที่ระดับกว่า 3% ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ส่วนความเคลื่อนไหวด้านการเมืองล่าสุด สภาสามัญชน (House of Commons) ของอังกฤษ มีมติด้วยคะแนนเสียง 494 ต่อ 122 เห็นชอบต่อร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวานนี้ โดยไม่มีการแปรญัตติ
ทั้งนี้ ร่างกฎหมาย Brexit จะถูกส่งต่อไปยังสภาขุนนาง (House of Lords) เพื่อให้การรับรองต่อไป และเมื่อร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการลงมติจากรัฐสภาแล้ว ก็จะส่งผลให้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาเป็นเวลา 2 ปี สำหรับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป