ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนบวกในวันนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 21.58 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,541.06 จุด เพิ่มขึ้น 36.65 จุด หรือ 0.18%
หุ้นกลุ่มธุรกิจรักษาสุขภาพพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนธ.ค.
ยอดค้าปลีกในเดือนม.ค.ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ายอดขายรถยนต์ดิ่งลงก็ตาม
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนม.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ในเดือนม.ค. จากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2013 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2012 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนธ.ค.
นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะทำการแถลงรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 ในวันนี้
นางเยลเลนกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้
นางเยลเลนส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการแถลงเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า การรอนานเกินไปเพื่อยกเลิกนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย จะทำให้เฟดต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะเสี่ยงต่อการกระทบตลาดการเงิน และฉุดเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอย