ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
การกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมระหว่างวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อชาวสหรัฐทั่วประเทศ ขณะที่สำนักข่าว CNN จะเริ่มออกอากาศสดไปทั่วโลกในเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
ณ เวลา 21.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,824.87 จุด ลดลง 13.39 จุด หรือ 0.06%
เมื่อวานนี้ ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเวลา 12 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวสวนทางตลาด
หุ้นทาร์เก็ตทรุดตัวลงกว่า 12% หลังเปิดเผยกำไร และรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4
ทั้งนี้ ทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.45 ดอลลาร์ในไตรมาส 4 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.51 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน บริษัทรายได้ที่ระดับ 2.069 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 2.070 หมื่นล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์คาดว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในการแถลงต่อสภาคองเกรส
นอกจากนี้ คาดว่าปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าข้ามชายแดน, การปฏิรูปกฎหมายประกันสุขภาพที่เรียกว่า "โอบามาแคร์", การยกเลิกกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรม และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมครั้งใหญ่ในการแถลงต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้เช่นกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว อยู่ที่ระดับ 1.9% โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
อย่างไรก็ดี ตัวเลขประมาณการดังกล่าวต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.1%
เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 3.5% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 และมีการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1
ตัวเลขการลงทุนทางด้านสินค้าคงคลังในภาคธุรกิจอยู่ที่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 โดยมีการปรับลดลงจากระดับ 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์ในตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีการขยายตัวที่ระดับ 3.0% ในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 2.5% หลังจากแตะระดับ 3.0% ในไตรมาส 3 และ 4.3% ในไตรมาส 2
เมื่อพิจารณาทั้งปี 2016 เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2011 และลดลงจากระดับ 2.6% ในปี 2015