ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) จากแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มบลูชิพ ภายหลังจากที่ดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.55 จุด หรือ -0.01% ปิดที่ 7,382.35 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้มีแรงฉุดจากการเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเมื่อวันพุธ ตามทิศทางของดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐ สืบเนื่องถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่สภาคองเกรส เกี่ยวกับแผนลงทุนในโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในสหรัฐมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
นายเคร็ก เออร์แลม นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง Oanda มองว่า นักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ แม้ว่าที่ผ่านมานั้น เขาจะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับมุมมองของเฟดที่ว่า สหรัฐจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างร้อนแรงจนเกินไป"
หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงอย่างหนักนำโดยหุ้นแคปิตา ร่วงลง 9.1% หลังบริษัทเปิดเผยว่า นายแอนดี้ ปาร์คเกอร์ ประธานบริหารของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่แคปิตารายงานผลกำไรสุทธิตลอดปีที่ผ่านมาปรับตัวลงลง
ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งนำโดยหุ้นคอนวาเท็ค กรุ๊ป ซึ่งทะยานขึ้น 5.1% หลังบริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์รายใหญ่ดังกล่าวประกาศว่า จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2017 ที่ระดับ 35% ของรายได้สุทธิ