ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.ของสหราชอาณาจักรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives Club of Chicago โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการไปก่อนที่การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดจะเสร็จสิ้นลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ระดับ 7,374.26 จุด ลดลง 8.09 จุด หรือ -0.11%
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นราว 1.8%
สำหรับปัจจัยลบที่กดดันตลาดหุ้นลอนดอนให้อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ มาจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหราชอาณาจักร ร่วงลงสู่ระดับ 53.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากอยู่ที่ระดับ 55.1 ในเดือนม.ค. โดยมาร์กิตระบุว่า การชะลอตัวของภาคบริการได้รับผลกระทบจากการลดลงในการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักรจะอยู่ที่ระดับ 54.1 ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives Club of Chicago ขณะที่ตลาดคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ประธานเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
CME Group FedWatch ระบุว่า ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่เครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ บ่งชี้ว่าเฟดมีโอกาสมากกว่า 80% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้น London Stock Exchange Group ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นอังกฤษ ปรับตัวลง 0.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิลดลงในปี 2559
อย่างไรก็ตาม หุ้นโอลด์ มิวชวล ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเพื่อการลงทุนรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 1.8% ขณะที่หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ปรับตัวขึ้น 1.7% และหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองผลิตโลหะมีค่า พุ่งขึ้น 2.8%