ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มบลูชิพ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดหุ้นถูกสกัดในระหว่างวันจากความวิตกของนักลงทุน ภายหลังจากรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า ค่าแรงในอังกฤษมีการขยายตัวช้าลงจากสาเหตุเงินเฟ้อ
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 10.79 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 7,368.64 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ ได้แรงหนุนจากหุ้นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยหุ้นฮิคมา ฟาร์มาซูติคอล บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ พุ่งขึ้น 8% หลังบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ขยับขึ้น 0.6% หลังรัฐบาลเปิดเผยว่า ได้ตัดขายหุ้นในธนาคารเหลือถือครองประมาณ 2.95%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นจากอานิสงส์สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า โดยหุ้นเกลนคอร์ พุ่ง 2.9% หุ้นแอนโตฟากาสตา พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นแองโกล อเมริกัน เพิ่มขึ้น 1.2%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นรอยัล ดัตช์ เชลล์ ขยับขึ้น 0.3% ขณะที่หุ้นบีพี ขยับลง 0.2%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ถูกสกัดให้ลดช่วงบวกในระหว่างวัน หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยรายงานว่า การขยายตัวของเงินเฟ้อในประเทศกำลังส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของค่าจ้างแรงงานชาวอังกฤษ โดยค่าแรงมีการขยายตัวเพียง 0.8% ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุด ณ เดือนม.ค. ซึ่งถือเป็นการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2014
ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1975 โดยตัวเลขดังกล่าวมีการเปิดเผยก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ตามเวลาอังกฤษ