ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากแนวโน้มของธนาคารกลางสหรัฐที่ยังไม่ส่งสัญญาณเร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นในอนาคต ภายหลังจากที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆมีแนวโน้มว่าจะคุมเข้มด้านการเงินมากขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงคลายความกังวลภายหลังจากที่ทราบผลการเลือกตั้งทั่วไปของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งพรรคของนายเดิร์ต ไวล์เดอร์ ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดและมีนโยบายที่จะถอนออกจากสหภาพยุโรปนั้น ไม่สามารถกวาดที่นั่งได้มากเท่ากับพรรค VVD ของนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 29,755.74 จุด เพิ่มขึ้น 169.89 จุด, +0.57% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,354.89 จุด เพิ่มขึ้น 66.61 จุด, +0.27% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,747.77 จุด เพิ่มขึ้น 10.63 จุด +0.61%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเผยแพร่ในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานวิสาหกิจระหว่างประเทศ (IE) ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ยอดส่งออกสินค้าทั่วไปที่ผลิตในประเทศ ยกเว้นน้ำมัน (NODX) พุ่งขึ้น 21.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกและสินค้านอกหมวดอิเล็กทรอนิก
อย่างไรก็ตาม หากเทียบเป็นรายเดือน ยอดส่งออกเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นเพียง 1.4% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ที่มีการขยายตัว 5.0%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า สินทรัพย์ทางการเงินของครัวเรือนญี่ปุ่นได้ขยายตัว 0.9% จากปีก่อนหน้า แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,800 ล้านล้านเยน (15.86 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ สิ้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมูลค่าตลาดของสินทรัพย์ประเภทต่างๆได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐนั้น อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และหนุนเศรษฐกิจโลกต่อไป