ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 8.76 จุด วิตกแผนกระตุ้นศก."ทรัมป์"ล่าช้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 21, 2017 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า การบังคับใช้มาตรการปรับลดภาษีและการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐนั้น อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,905.86 จุด ลดลง 8.76 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,901.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.53 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,373.47 จุด ลดลง 4.78 จุด หรือ -0.20%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ โดยปัจจัยล่าสุดมาจากความกังวลที่ว่า การบังคับใช้มาตรการปรับลดภาษีและการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากที่ทรัมป์ได้ประกาศแผนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ รวมทั้งแผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ แผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง และแผนการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อผลการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากแถลงการณ์ร่วมของกลุ่ม G20 ระบุถึงจุดยืนร่วมกันด้านการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน แต่มีการถอดประเด็นต่อต้านการกีดกันทางการค้าออกจากแถลงการณ์ เนื่องจากได้รับการคัดค้านจากตัวแทนของสหรัฐ

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงการผลิตน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐ โดยหุ้นทรานส์โอเชียน ดิ่งลง 2.2% และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ร่วงลง 2%

หุ้นดอยซ์แบงก์ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลง 3.7% หลังจากดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ประกาศเพิ่มทุน 8 พันล้านยูโร (8.5 พันล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของธนาคาร หลังจากที่ธนาคารได้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อยุติคดีความกับทางการสหรัฐและอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ดีดตัวขึ้น 0.9% หลังจากยอดขายบัตรชมภาพยนตร์ “Beauty and the Beast" พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.พ.

นักลงทุนนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีนี้ ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาชิคาโก ภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้

ส่วนเมื่อวานนี้ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวในวันนี้ว่า เฟดกำลังดำเนินไปในแนวทางที่ถูกต้องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2559, ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ