ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุนักลงทุนผิดหวังผลประชุม G20

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 21, 2017 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่นางมารีน เลอเปน และนายเอมมานูเอล มาครอง สองผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะทำการโต้วาทีครั้งแรกก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 377.68 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,012.16 จุด ลดลง 17.08 จุด หรือ -0.34% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,052.90 จุด ลดลง 42.34 จุด หรือ -0.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,429.81 จุด เพิ่มขึ้น 4.85 จุด หรือ +0.07%

นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะมีการดีเบทระหว่างนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส จากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด โดยหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป และนายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ

การโต้วาทีครั้งนี้จัดขึ้นในเวลา 03.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของฝรั่งเศสที่มีการจัดโต้วาทีระหว่างตัวเก็งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย. โดยการโต้วาทีดังกล่าวจะใช้เวลา 3 ชั่วโมง และคาดว่าจะมีผู้ชมทางโทรทัศน์จำนวนหลายล้านคน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากแถลงการณ์ร่วมของกลุ่ม G20 ระบุถึงจุดยืนร่วมกันด้านการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน แต่มีการถอดประเด็นต่อต้านการกีดกันทางการค้าออกจากแถลงการณ์ เนื่องจากได้รับการคัดค้านจากตัวแทนของสหรัฐ

หุ้นดอยซ์แบงก์ ร่วงลงกว่า 3% หลังจากดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ประกาศเพิ่มทุน 8 พันล้านยูโร (8.5 พันล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของธนาคาร หลังจากที่ธนาคารได้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อยุติคดีความกับทางการสหรัฐและอังกฤษ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ราคาผู้ผลิต ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. จากเดือนม.ค. และปรับตัวขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2554


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ