ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และพลังงาน เช่นเดียวกับข้อมูลภาคบริการของสหราชอาณาจักรที่มีการขยายตัวสูงสุดรอบกว่า 8 ปีในเดือนมี.ค.
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 9.86 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 7,331.68 จุด
บริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหราชอาณาจักร ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 55.0 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 หลังจากอยู่ที่ระดับ 53.3 ในเดือนก.พ.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักรจะอยู่ที่ระดับ 53.5 ในเดือนมี.ค.
ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนประมาณสามในสี่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักร
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนหุ้นบีพี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบีเอชพี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% หลังถูกประกาศเหตุสุดวิสัยสำหรับการขนส่งจากเหมืองถ่านหินในรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย อันเป็นผลจากพายุไซโคลน "เด็บบี" ซึ่งได้พัดเข้าสู่ชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย และได้สร้างความความเสียหายอย่างรุนแรง
หุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ขยับขึ้น 0.2%