ดาวโจนส์พุ่งพรวดเกือบ 100 จุด เมินปัจจัยเกาหลีเหนือ ขณะคาดผลประกอบการสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 17, 2017 21:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน และพุ่งขึ้นเกือบ 100 จุด ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับคาบสมุทรเกาหลี และหันมาจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน จะเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011
ณ เวลา 21.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,549.15 จุด เพิ่มขึ้น 96.87 จุด หรือ 0.48%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโบอิ้ง และ IBM ทะยานขึ้นมากที่สุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องในวัน Good Friday ในเทศกาลอีสเตอร์
นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า ยุคแห่งการใช้ความอดทนกับเกาหลีเหนือได้ผ่านพ้นไปแล้ว
นายเพนซ์กล่าว หลังการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ประสบความล้มเหลวเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ดี นายเอช.อาร์. แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวย้ำว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะยังไม่พิจารณาทางเลือกในการใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้เกาหลีเหนือในขณะนี้
"ขณะนี้ถึงเวลาที่เราจะใช้มาตรการทุกอย่างที่เราดำเนินการได้ ยกเว้นมาตรการทางทหาร ในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี โดยเรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตร และร่วมกับจีนเพื่อพิจารณาทางเลือกในการดำเนินการ" เขากล่าว
เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า ปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาการใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่รุนแรงขึ้น เช่น การห้ามจำหน่ายน้ำมันแก่เกาหลีเหนือ, การระงับสายการบินเกาหลีเหนือไปยังประเทศต่างๆ, การตรวจจับเรือสินค้าเกาหลีเหนือ และการลงโทษธนาคารของจีนที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ค รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ชะลอตัวลงในเดือนเม.ย.

ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ 5.2 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 16.4 ในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งแตะระดับ 18.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014

อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัว และดัชนีอยู่ในภาวะขยายตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน

ดัชนีย่อยด้านคำสั่งซื้อใหม่ชะลอตัวลงในเดือนเม.ย. แต่ดัชนีด้านการจ้างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลง 3 จุดในเดือนเม.ย. แตะระดับ 68 หลังจากพุ่งแตะระดับ 71 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านจะแตะระดับ 70 จุดในเดือนเม.ย.

NAHB ระบุว่า ผู้สร้างบ้านเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านกฎระเบียบในระดับสูง และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้น

อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ