ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 113.64 จุด ตลาดผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 19, 2017 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ตัวเลขการสร้างบ้านเดือนมี.ค.ของสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,523.28 จุด ร่วงลง 113.64 จุด หรือ -0.55% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,342.19 จุด ลดลง 6.82 จุด หรือ -0.29% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,849.47 จุด ลดลง 7.32 จุด หรือ -0.12%

ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ นอกจากนี้ รายงานตัวเลขสร้างบ้านของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงนั้น ยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 6.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.22 ล้านยูนิต จากระดับ 1.30 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.25 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.

หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง หลังจากทางธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ที่ระดับ 5.15 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.31 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 8.026 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.446 พันล้านดอลลาร์ โดยผลประกอบการของโกลด์แมน แซคส์ ได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงจากการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงิน รวมทั้งการลดลงของค่าธรรมเนียม และค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายหุ้น

ผลประกอบการที่อ่อนแอของโกลด์แมน แซคส์ ส่งผลให้หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารร่วงลงด้วย โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลงราว 1% แม้ธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 41 เซนต์ ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 35 เซนต์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 2.249 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 เทียบกับระดับ 2.079 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์สัน ร่วงลง 3.1% หลังจานกบริษัทเปิดเผยยอดขายในไตรมาส 1 อยู่ที่ 1.777 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.804 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ (UAL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลงกว่า 4% แม้ทางบริษัทเปิดเผยกำไรที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในไตรมาส 1 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ของสายการบินได้ลากตัวผู้โดยสารลงจากเครื่องที่ท่าอากาศยานโอแฮร์ ในชิคาโก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงในโลกโซเชียล

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในต่างประเทศ รวมถึงการเลือกตั้งในฝรั่งเศสซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย. และรายงานข่าวที่ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่งเป็นการเลือกตั้งก่อนกำหนด

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ