ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ ขานรับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งเปิดเผยว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับแผนปฏิรูประบบภาษีครั้งใหญ่ในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ นายมนูชินยังแสดงความหวังว่า แผนปฎิรูปดังกล่าวจะสามารถผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในปีนี้
ณ เวลา 20.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,597.95 จุด เพิ่มขึ้น 19.24 จุด หรือ 0.09%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นวีซ่าทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
นักลงทุนขานรับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในวันนี้
บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 1 โดยมีกำไร และรายได้สูงกว่าคาด
GE ระบุว่า บริษัทมีกำไร 21 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 1 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 17 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังรายงานรายได้ที่ระดับ 2.766 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.640 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี นักลงทุนมีความกังวลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกของฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้
นายเฟรดริค อีริคสัน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ-การเมืองระหว่างประเทศ กล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสในวันนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกของฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้ จะช่วยหนุนคะแนนเสียงสำหรับนางมารีน เลอเปน ซึ่งมีแนวคิดขวาจัด
ที่ผ่านมา นางเลอเปนได้รณรงค์หาเสียงโดยเรียกร้องให้มีการยุติการรับผู้อพยพเข้าฝรั่งเศสเพื่อป้องกันมิให้กลุ่มหัวรุนแรงเข้ามาในยุโรป
ผลการสำรวจบ่งชี้ว่า นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งมีแนวคิดสายกลาง จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส แต่เหตุการณ์กราดยิงในวันนี้อาจส่งผลให้นางเลอเปนมีคะแนนนำ
ทางด้านนายไซมอน ทอร์มีย์ หัวหน้าภาควิชาสังคมและรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ กล่าวว่า การโจมตีในวันนี้จะทำให้ผู้ลงคะแนนหันมาดูว่าผู้สมัครรายใดที่จะจัดการกับปัญหาการก่อการร้ายในประเทศได้ดีที่สุด