ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ ขณะยูโรแข็งค่าหลังเงินเฟ้อยูโรโซนพุ่งเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday April 29, 2017 05:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันศุกร์ (28 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายในเดือนเม.ย. โดยภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของยูโรโซนและอังกฤษ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.70 จุด หรือ -0.18% ปิดที่ 387.09 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,267.33 จุด ลดลง 4.37 จุด หรือ -0.08% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,438.01 จุด ลดลง 5.78 จุด หรือ -0.05% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.94 จุด ลดลง 33.23 จุด หรือ -0.46%

สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น 2.4% โดยได้แรงหนุนจากผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลที่ว่าฝรั่งเศสจะเจริญรอยตามสหราชอาณาจักรในการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือที่เรียกว่า Frexit

ขณะที่ในรอบเดือนเม.ย.นั้น ดัชนีหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น 1.6%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปวันศุกร์ได้รับแรงกดดันจากค่าเงินยูโรที่ปรับตัวขึ้น 0.2% แตะ 1.0949 ดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น 0.3% แตะที่ 1.2945 ดอลลาร์

เงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในยูโรโซนพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย.

ยูโรสแตทเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนดีดตัวสู่ระดับ 1.9% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.8% และนับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่กำหนดให้เงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2%

ก่อนหน้านี้ อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนร่วงลงแตะ 1.5% ในเดือนมี.ค. จาก 2.0% ในเดือนก.พ.

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน แตะระดับ 1.2% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 0.7% ในเดือนที่แล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนเม.ย. เป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2556

ด้านเงินปอนด์ยังสามารถพยุงตัวแข็งค่าอยู่ได้ แม้ตัวเลขจีดีพีออกมาอ่อนแรง โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.3% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากที่ขยายตัว 0.7% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 และเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2559 หรือในรอบหนึ่งปี

สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจอังกฤษชะลอตัวลงนั้น เป็นเพราะภาคบริการที่อ่อนแรงลง โดยขยายตัวเพียง 0.3% ในช่วงสามเดือนแรกปีนี้ จาก 0.8% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ เงินยูโรและเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรในต่างประเทศของบรรดาบริษัทข้ามชาติของยุโรปและอังกฤษ

นอกจากนี้ในวันศุกร์ยังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆของประเทศในยุโรป ได้แก่ สำนักงานสถิติฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 0.4%

การที่เศรษฐกิจของฝรั่งเศสที่การขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำนั้นเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้น ส่งผลให้ความต้องการอุปกรณ์ทำความร้อนลดลง ขณะที่ตัวเลขภาคการส่งออกก็ปรับตัวลงเช่นกัน

นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของฝรั่งเศสชะลอตัวกว่าคาดการณ์นั้น ยังมีผลมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เนื่องจากขณะนี้ฝรั่งเศสกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่สอง ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.นี้

ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือนมี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้ว ยอดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% เนื่องจากเดือนมี.ค.ปีนี้มีวันจับจ่ายใช้สอยมากกว่าเดือนมี.ค. 2559

ในส่วนของความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจ ธนาคารบาร์เคลย์ ของอังกฤษ เปิดเผยว่าผลกำไรก่อนหักภาษีในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พุ่งขึ้นแตะ 1.682 พันล้านปอนด์ จาก 793 ล้านปอนด์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่นักวิเคราะห์ผิดหวังกับผลการดำเนินงานในส่วนของวาณิชธนกิจของบาร์เคลย์ ส่งผลให้หุ้นของธนาคารดิ่งลงถึง 5.2%

ด้านหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) พุ่ง 4.7% หลังธนาคารรายงานกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสสามของปี 2558 โดยอาร์บีเอสเผยว่ามีกำไร 259 ล้านปอนด์ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2560 เทียบกับที่ขาดทุน 968 ล้านปอนด์ในปีที่แล้ว

หุ้นยูบีเอส บวก 2.1% หลังธนาคารสัญชาติสวิสรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดการณ์ จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจวาณิชธนกิจและการบริหารความมั่งคั่ง

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นของประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปจะปิดทำการในวันจันทร์นี้ เนื่องในวันแรงงานสากล ขณะที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการซื้อขายวันจันทร์ เนื่องในวันหยุดธนาคาร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ