ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 55.47 จุด รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ,ราคาน้ำมันฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday May 6, 2017 06:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย. และราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากการร่วงลงของหุ้น IBM และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,006.94 จุด เพิ่มขึ้น 55.47 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,399.29 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด หรือ +0.41% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,100.76 จุด เพิ่มขึ้น 25.42 จุด หรือ +0.42%

ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจน์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.3% ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.6% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.9%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนเม.ย.ลดลงสู่ระดับ 4.4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6%

ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เอ็ดเวิร์ด โจนส์ แสดงความเห็นว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย. สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงสดใส และมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่รายได้ต่อชั่วโมงซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญนั้น ขยับขึ้นเล็กน้อย ซึงอาจเป็นอุปสรรคต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งช่วยให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง 6.4% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 4.1% หุ้นทรานส์โอเชียน ทะยานขึ้น 8.1% และหุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ดีดตัวขึ้น 3.3%

หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังจากที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า ยอดขายไอโฟนอยู่ที่ 50.8 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ตามปีงบการเงินของบริษัท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 51 ล้านดอลลาร์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 52 ล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบและเคมีภัณฑ์ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นดาว เคมิคอล พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นแพร็กเซียร์ ดีดตัวขึ้น 2.5% และหุ้นซีเอฟ อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปุ๋ยรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5%

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากการที่หุ้น IBM ร่วงลง 2.5% หลังจากนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีพันล้าน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ประกาศขายหุ้น IBM จำนวน 33% ที่เขาถือครองอยู่ หรือจำนวน 81 ล้านหุ้น

ทั้งนี้ นายบัฟเฟตต์กล่าวว่า "ผมไม่ได้ให้ค่าของ IBM อย่างที่ผมเคยมองเมื่อ 6 ปีก่อน ขณะที่ผมเข้าเริ่มซื้อ และขณะนี้ผมได้ปรับลดคาดการณ์ราคาของ IBM ลง"

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้

โพลล์สำรวจความคิดเห็นประชาชนฝรั่งเศสล่าสุดจาก Elabe แสดงให้เห็นว่า นายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีโอกาสชนะคู่แข่งสายอนุรักษ์นิยมขวาจัดอย่างนางมารีน เลอเปน จากพรรค National Front (FN) ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 62% ต่อ 38% ในการเลือกตั้งรอบ 2 ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์นี้

โพลล์ดังกล่าวระบุว่า นายมาครอง ซึ่งมีแนวคิดสายกลาง ได้คะแนนมากกว่าผลสำรวจครั้งก่อน ภายหลังจากผู้สมัครทั้งสองคนได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ในการโต้วาทีรอบสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยประชาชนส่วนใหญ่ประทับใจในวิสัยทัศน์ของนายมาครองมากกว่านางเลอเปน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ