ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลง หลังดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้
ณ เวลา 21.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,813.60 จุด ลดลง 129.51 จุด หรือ 0.62%
หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโฮม ดีโปท์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
นักลงทุนต่างเทขายหุ้นของห้างเมซีส์ และบริษัท Snap หลังผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัททั้ง 2 แห่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 236,000 ราย สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 245,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 114 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 500 ราย สู่ระดับ 243,500 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 เม.ย. มีจำนวนลดลง 61,000 ราย สู่ระดับ 1.92 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1988 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 27,500 ราย สู่ระดับ 1.97 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.1974
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย.
การดีดตัวของดัชนี PPI ในเดือนเม.ย. นับเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ซึ่งดีดตัวขึ้น 0.5% เช่นกัน
การพุ่งขึ้นของดัชนี PPI ได้รับแรงบวกจากการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน และอาหาร