ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ได้แสดงความเห็นที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,528.99 จุด พุ่งขึ้น 144.71 จุด หรือ +0.68% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,239.01 จุด เพิ่มขึ้น 87.25 จุด หรือ +1.42% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,453.46 จุด เพิ่มขึ้น 20.31 จุด หรือ +0.83%
นักวิเคราะห์จากเมอร์ฟี แคปิตอล เมเนจเมนท์กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเริ่มกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากผลประกอบการของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียังคงแข็งแกร่ง ซึ่งจูงใจให้นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดตัวขึ้น 1.5% หุ้นอเมซอน ปรับตัวขึ้น 0.8% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.7%
ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวในด้านบวกของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นกัน โดยผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐราว 20 แห่ง ซึ่งรวมถึง นายทิม คุก ซีอีโอบริษัทแอปเปิล, นายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอบริษัทอเมซอน และนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ได้เดินทางเข้าพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับลดรายจ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล และการปรับปรุงการให้บริการ
หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวขึ้น 1.3% หลังจากผู้บริหารของโบอิ้งได้แถลงข่าวในงาน Paris Air Show เมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 10 จากลูกค้ากว่า 10 ราย ซึ่งรวมถึงบริษัท GECAS ซึ่งเป็นธุรกิจเช่าเครื่องบินในเครือเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ที่สั่งซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวจากโบอิ้งจำนวน 20 ลำ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กได้แสดงความคิดเห็นในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายดัดลีย์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวขึ้นต่อไป ซึ่งได้แรงหนุนจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น และตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะยังคงดำเนินต่อไปได้อีกนาน และคาดว่าการขยายตัวของค่าจ้างจะแตะระดับ 3% ในช่วงเวลา 1-2 ปี
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของนายดัดลีย์ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น นำโดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 2.2%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมิ.ย.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.