ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 12.74 จุด หลังหุ้นการเงิน,หุ้นสินค้าผู้บริโภคร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 23, 2017 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องแม้ราคาน้ำมันดิบ WTI เริ่มฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ก็ตาม อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างคึกคัก หลังจากวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ เพื่อนำมาใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,397.29 จุด ลดลง 12.74 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,434.50 จุด ลดลง 1.11 จุด หรือ -0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,236.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.73 จุด หรือ +0.04%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องแม้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพ หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐเปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะนำมาใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์

รายงานข่าวกล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายฉบับโอบามาแคร์ (Affordable Care Act) เช่น การตัดลดงบประมาณในโครงการ Medicaid

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากข่าวดังกล่าว โดยหุ้นเอ็กซ์ไบโอเทค ทะยานขึ้น 20% หุ้นแซนกาโม เธราพูติกส์ พุ่งขึ้น 13% หุ้นเทเนท เฮลแคร์ พุ่งขึ้น 6.9% หุ้นคอมมูนิตี้ เฮลธ์ ซิสเต็มส์ ปรับตัวขึ้น 5.1% หุ้นเอชซีอี เฮลธ์แคร์ ดีดตัวขึ้น 2.9% และหุ้นยูนิเวอร์แซล เฮลธ์ เซอร์วิส ปรับขึ้น 1.8%

ขณะที่หุ้นกลุ่มประกันปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป หุ้นเอทนา อิงค์ และหุ้นฮิวมานา อิงค์ ต่างก็ปิดตลาดในแดนบวก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่ออกมาค่อนข้างดี โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 241,000 ราย

ทั้งนี้ แม้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 240,000 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 120 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 และสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมิ.ย.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ