ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) ด้วยปัจจัยลบจากการที่สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น ภายหลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้กล่าวถึงความจำเป็นที่อังกฤษจะต้องยกเลิกมาตรการกระตุ้นทางการเงิน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 46.56 จุด หรือ -0.63% ปิดที่ 7,387.80 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดในแดนลบเป็นวันที่ 6 ในรอบ 7 วันทำการ ภายหลังจากค่าเงินปอนด์พุ่งแตะระดับ 1.2940 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2814 ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กในคืนวันอังคาร สืบเนื่องจากนายคาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE กล่าวว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินมีความอดทนที่จำกัดต่อเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย
นายคาร์นีย์ กล่าวเสริมด้วยว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะอ่อนตัวก็ตาม
ทั้งนี้การแข็งค่าของเงินปอนด์ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ในต่างประเทศของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น ตามทิศทางของราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอนโตฟากาสตา เพิ่มขึ้น 1.7% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ขยับขึ้น 0.9%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของอังกฤษที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ เนชั่นไวด์ บิลดิง โซไซตี้ (Nationwide Building Society) รายงานว่า ราคาบ้านในสหราชอาณาจักรปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลง 3 เดือนติดต่อกันก่อนหน้านี้