ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 84.65 จุด หลังข้อมูลเงินเฟ้อซบเซาหนุนคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday July 15, 2017 07:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกที่ซบเซาของสหรัฐได้ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารได้สกัดแรงบวกในตลาด แม้ว่าธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส และซิตี้กรุ๊ป ได้เปิดเผยผลประกอบการที่สดใสก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,637.74 จุด เพิ่มขึ้น 84.65 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,459.27 จุด เพิ่มขึ้น 11.44 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,312.47 จุด เพิ่มขึ้น 38.03 จุด หรือ +0.61%

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1% ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 2.6% และ ดัชนีS&P500 เพิ่มขึ้น 1.4%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกที่ซบเซา โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนมิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2016

ทั้งนี้ ข้อมูล CPI ล่าสุดบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำของสหรัฐ และอาจส่งผลให้เฟดชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นไปแล้วในเดือนมี.ค. และมิ.ย. ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณในระหว่างการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดพร้อมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังรายงานว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ ปรับตัวขึ้น ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.1% หุ้น NetApp พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นซิมเมอร์ ไบโอเมท โฮลดิ้ง ทะยานขึ้น 2.7%

อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดได้ถูกจำกัดในระหว่างวัน เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้ธนาคารรายใหญ่อย่างเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ได้เปิดเผยผลประกอบการที่สดใสก็ตาม

หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ปรับตัวลง 0.9% แม้ธนาคารเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.641 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.82 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในตอนแรกที่ 2.496 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.58 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 0.5% แม้ธนาคารเปิดเผยรายได้ 1.790 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.28 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารายได้จะอยู่ที่ระดับ 1.737 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.21 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1.1% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้ 2.217 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 2 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ระดับ 2.247 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.01 ดอลลาร์/หุ้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากร่วงลง 0.2% ในเดือนเม.ย. ทางด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 93.1 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 95.0


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ