ดาวโจนส์ร่วงไม่หยุด ล่าสุดทรุดกว่า 150 จุด หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทุบตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 18, 2017 21:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ โดยล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 150 จุด ขณะที่ถูกกระทบจากการดิ่งลงของหุ้นโกลด์แมน แซคส์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าของการออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ณ เวลา 21.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,478.68 จุด ลดลง 151.04 จุด หรือ 0.70%

หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ร่วงลงมากที่สุด ถึงแม้ทางธนาคารเปิดเผยว่ามีกำไร และรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่รายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ก็ได้ลดลงถึง 40%

นอกจากนี้ ราคาหุ้นของแบงก์ ออฟ อเมริกาได้ปรับตัวลงเช่นกัน แม้ว่าเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาด แต่ก็ถูกกดดันจากการที่รายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้ลดลงอย่างมาก

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ เช่น จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, ยูไนเต็ดเฮลท์ กรุ๊ป อิงค์, "ฮาร์เลย์-เดวิดสัน" ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันนี้ แสดงความไม่พอใจต่อการที่พรรคเดโมแครต และสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนไม่ให้การสนับสนุนการออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่

"สมาชิกพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่มีความจงรักภักดี สุดยอด และทำงานหนัก แต่เรารู้สึกผิดหวังต่อสมาชิกพรรคเดโมแครตทุกคน และสมาชิกบางคนของพรรครีพับลิกัน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

"อย่างที่ผมเคยพูดไว้ ให้เราคว่ำกฎหมายโอบามาแคร์ และร่วมกันออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่" ปธน.ทรัมป์ระบุเสริม

ทางด้านนายเจอร์รี มอร์แรน และนายไมค์ ลี สองวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ประกาศว่า พวกเขาจะโหวตคัดค้านร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับปรับปรุงใหม่ของวุฒิสภาซึ่งผลักดันโดยพรรครีพับลิกัน ส่งผลให้ทางพรรคอาจไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันให้เพียงพอต่อการผลักดันร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวให้ผ่านวุฒิสภาเพื่อนำไปบังคับใช้แทนกฎหมายโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน

นักลงทุนกังวลว่า ความล่าช้าของการออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่จะส่งผลกระทบต่อการออกกฎหมายปฏิรูปภาษี รวมทั้งกระทบต่อความพยายามในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์

ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน

ทั้งนี้ ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค.

การร่วงลงของดัชนีราคานำเข้าเป็นการบ่งชี้ว่าแรงกดดันจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และปรับตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ