ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการ และตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,766.01 จุด เพิ่มขึ้น 55.00 จุด หรือ 0.25%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโบอิ้งทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ราคาหุ้นเฟซบุ๊กทะยานขึ้นมากกว่า 4% ในวันนี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายโฆษณาวิดีโอบนมือถือ
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.32 ดอลลาร์/หุ้น พุ่งขึ้น 69% เทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.13 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 9.32 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 45% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 9.2 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากโฆษณาบนมือถือ คิดเป็นสัดส่วน 87% ของรายได้จากโฆษณาทั้งหมดในไตรมาส 2 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 84% ของไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว
พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยกำไร และยอดขายในเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ตามปีงบการเงินของบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
P&G เปิดเผยกำไรที่ระดับ 85 เซนต์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 78 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ P&G ยังเปิดเผยยอดขายที่ระดับ 1.608 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.602 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทคอมแคสต์รายงานตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาส 2 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ คอมแคสต์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 52 เซนต์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 48 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 2.117 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.086 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทเวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น รายงานตัวเลขรายได้ในไตรมาส 2 ที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เวอไรซอนเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 96 เซนต์ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 3.055 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.991 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 6.5% ในเดือนมิ.ย. โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.8% หลังจากร่วงลง 0.1% ในเดือนพ.ค.
การพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมิ.ย. ถือเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2014
การดีดตัวขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ที่ทะยานขึ้น 131.2% ขณะที่อุปสงค์สำหรับรถยนต์ร่วงลง 0.6%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 244,000 ราย หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 125 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970