ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นดอยซ์แบงก์ เอจี หลังจากธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนีรายนี้เปิดเผยรายได้ที่ลดลงในช่วงไตรมาส 2 ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นๆก็เปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซาเช่นกัน ซึ่งรวมถึงบริษัท Anheuser-Busch InBev (เอบี อินเบฟ)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 382.32 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,186.95 จุด ลดลง 3.22 จุด หรือ -0.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,212.04 จุด ลดลง 93.07 จุด หรือ -0.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,443.01 จุด ลดลง 9.31 จุด หรือ -0.12%
หุ้นดอยซ์แบงก์ ร่วงลง 6.5% ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ดอยซ์แบงก์เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2560 อยู่ที่ระดับ 466 ล้านยูโร (547 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 273 ล้านยูโร แต่รายได้รวมของดอยซ์แบงก์ ลดลง 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 6.6 พันล้านยูโร
หุ้นเอบี อินเบฟ ผู้ผลิตเบียร์ Budweiser และ Stella Artois ดิ่งลง 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในสหรัฐและบราซิล ซึ่งเป็นสองตลาดใหญ่ของบริษัท
หุ้นเบเยอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ร่วงลง 3% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2560 ภายหลังจากเปิดเผยกำไรสุทธิร่วงลง 11% ในไตรมาส 2
หุ้นดิอาจิโอ ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ระดับโลก และเป็นเจ้าของแบรนด์วอดก้า Smirnoff พุ่งขึ้น 6% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากสถาบันวิจัย GfK เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 10.8 จากระดับ 10.6 ในเดือนก.ค. ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและสถานะการเงินในเดือนข้างหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีเดือนส.ค.จะทรงตัวที่ระดับ 10.6