ดาวโจนส์พุ่งจ่อแตะ 22,000 จุด ขานรับผลประกอบการสดใส ขณะจับตา"แอปเปิล"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 1, 2017 21:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 22,000 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของเดือนส.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะจากบริษัทแอปเปิล ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดวันนี้

ณ เวลา 20.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,961.12 จุด เพิ่มขึ้น 70.00 จุด หรือ 0.32%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีของตลาดหุ้นต่างทะยานขึ้นในเดือนก.ค. โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 2.54% ซึ่งเป็นการปรับตัวดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ขณะที่ได้อานิสงส์ส่วนใหญ่จากการพุ่งขึ้นของหุ้นโบอิ้ง ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ขึ้นมากกว่า 300 จุด

นอกจากนี้ ดัขนี S&P 500 ก็สามารถทำสถิติพุ่งขึ้นในเดือนก.ค.มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. โดยดีดบวก 1.93% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 3.38% ในเดือนก.ค.

การประกาศผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในเดือนที่แล้ว โดยบริษัทราว 73% ในดัชนี S&P 500 ซึ่งได้ประกาศผลประกอบการจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว มีผลประกอบการสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่ค่าเฉลี่ยในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมาพบว่า มีบริษัทราว 71% ที่มีผลประกอบการสูงกว่าคาด

CME Group Inc ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานกำไรในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม และการชำระบัญชี

ทั้งนี้ CME เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.23 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.21 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ CME ยังเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 924.6 ล้านดอลลาร์ จากระดับ 906.4 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 2 แต่มีรายได้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ ไฟเซอร์มีกำไร 67 เซนต์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 66 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.308 หมื่นล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.

หากมีการปรับค่าตามเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐทรงตัวในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.

นับตั้งแต่ที่พุ่งขึ้น 3.8% ในไตรมาส 2 ของปี 2016 การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ได้ปรับตัวต่ำกว่า 3% โดยถูกกดดันจากการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของค่าจ้าง

นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลทรงตัวในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับตัวที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่ร่วงลง 0.1% ในเดือนพ.ย.2016 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค.

ตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 5.464 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 5.647 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% เช่นกันในเดือนพ.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% เช่นกันในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PCE พื้นฐาน ยังคงอยู่ห่างไกลจากระดับ 2.0% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ