ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) โดยตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 และการร่วลงของหุ้นสายการบิน แอร์ เบอร์ลิน ได้สกัดแรงบวกของตลาดในระหว่างวัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 376.50 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,177.04 จุด เพิ่มขึ้น 11.92 จุด หรือ +0.10% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,140.25 จุด เพิ่มขึ้น 18.58 จุด หรือ +0.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,383.85 จุด เพิ่มขึ้น 29.96 จุด หรือ +0.41%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เขาจะชะลอการตัดสินใจยิงขีปนาวุธไปตกลงในบริเวณเกาะกวม โดยจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของสหรัฐก่อน
ทางด้านสหรัฐนั้น นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะใช้ช่องทางการทูตและการเจรจาในการคลี่คลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ นายทิลเลอร์สันกล่าวว่า สหรัฐไม่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ หรือเร่งกระบวนการรวมชาติเกาหลี
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 0.6% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.7%
หุ้นแอร์ เบอร์ลิน ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี ร่วงลงอย่างหนักถึง 34% หลังจากทางสายการบินได้ยื่นขอการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลายต่อศาลในเยอรมนี หลังจากที่เอทิฮัด แอร์เวย์ส ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของแอร์ เบอร์ลิน ประกาศยุติการสนับสนุนทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มสายการบินกลับดีดตัวขึ้น โดยหุ้นดอยซ์ ลุฟฮันซา พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นอีซีเจ็ท ดีดตัวขึ้น 4.5% และหุ้นคอนโซลิเดท แอร์ไลน์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส พุ่งขึ้น 2.9%