ดาวโจนส์ฟื้นตัว หลังดิ่งหนักวานนี้ คำสั่งซื้อเก็งกำไรหนุนตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 6, 2017 21:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ โดยฟื้นตัวขึ้นจากคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังจากทรุดตัวลงเมื่อคืนนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

ณ เวลา 20.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,811.85 จุด เพิ่มขึ้น 58.54 จุด หรือ 0.27%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เช่น เฟซบุ๊ค แอปเปิล และเน็ตฟลิก ต่างปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงเมื่อวานนี้

นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันก็ได้เป็นแรงหนุนต่อตลาดในวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 223.25 จุด หรือกว่า 1% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความล่าช้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการที่หน่วยงานของรัฐบาลอาจจะต้องปิดทำการ หากทำเนียบขาวไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่ง ECB อาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้อในสหรัฐกำลังปรับตัวลง และอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% ดังนั้น เฟดจึงควรใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความมั่นใจว่าราคากำลังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น

"เราควรระมัดระวังในการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน จนกว่าเราจะมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มบรรลุเป้าหมายของเรา" เขากล่าว

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 4.37 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ขาดดุล 4.35 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 4.46 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

ทั้งนี้ การส่งออกของสหรัฐลดลง 0.3% สู่ระดับ 1.944 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ขณะที่การนำเข้าลดลง 0.2% สู่ระดับ 2.381 แสนล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 3.36 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2016


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ