ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ในขณะที่นักลงทุนต่างรอดูว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติมหรือไม่ในการประชุมวันนี้ ในขณะที่กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นั้นเริ่มแผ่วลง หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน"เออร์มา"พัดกระหน่ำสหรัฐ
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 31,798.31 จุด เพิ่มขึ้น 110.79 จุด, +0.35% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,942.25 จุด เพิ่มขึ้น 273.78 จุด, +0.99% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,781.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุด, +0.10%
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมลงมติเพื่อคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ ในการประชุมวันนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยสหรัฐได้ร่างมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวและเสนอต่อ 15 ชาติสมาชิก UNSC ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนของญี่ปุ่นในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 8.533 แสนล้านเยน ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคนั้น ถือเป็นตัวเลขที่สามารถบ่งชี้การใช้จ่ายในอนาคตของบริษัทเอกชน
กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า รายจ่ายด้านการคลังของจีนในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 2.9% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 5.4%
ขณะที่รายได้ด้านการคลังเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้น 7.2% เทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 11.1% ในเดือนก.ค.
ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รายจ่ายด้านการคลังของจีนปรับตัวขึ้น 13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนรายได้ด้านการคลังในช่วงเวลาดังกล่าว เพิ่มขึ้น 9.8%
สำหรับความเคลื่อนไหวในภาคการธนาคารนั้น สื่อต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มบางส่วนในวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน หลังจากที่ภาคการส่งออกของจีนเริ่มได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินหยวนพุ่งขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา