ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ แต่สามารถปรับตัวสู่แดนบวกในช่วงแคบๆ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงิน
ณ เวลา 20.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,375.98 จุด บวก 5.18 จุด หรือ 0.02%
นักลงทุนจับตาการประชุมเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นในเดือนมี.ค. และมิ.ย.
นักวิเคราะห์ไม่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดงบดุลจากวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 56% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ หลังราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นมากกว่า 1% ทะลุระดับ 50 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 50 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังพิจารณาที่จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เพื่อยืนยันตัวเลขของ API
ณ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 1.17% สู่ระดับ 50.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายจาบาร์ อัล-ลูไอไบ รมว.น้ำมันอิรัก กล่าวว่า กลุ่มประเทศโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายประเทศ กำลังพิจารณาที่จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หรือปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น เพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันล้นตลาด
นายอัล-ลูไอไบกล่าวว่า ผู้ผลิตน้ำมันบางรายมองว่า ควรมีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 3-4 เดือน ขณะที่บางรายต้องการให้ขยายเวลาจนถึงสิ้นปีหน้า
นอกจากนี้ อิรัก และเอกวาดอร์แสดงการสนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง