ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวทั้งแดนบวก-ลบ ซื้อขายไม่คึกคักหลังตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกงปิดทำการ

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวในกรอบแคบๆ ทั้งในแดนบวกและแดนลบ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกจากแรงหนุนของข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่การซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้ไม่คึกคักมากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นจีน เกาหลีใต้ และฮ่องกงปิดทำการในวันนี้ ด้านดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงหลังจากที่ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียร่วงลง

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 31,725.85 จุด เพิ่มขึ้น 54.14 จุด, +0.17% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,758.49 จุด ลดลง 3.35 จุด, -0.19%

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมหัวข้อ "Community Banking in the 21st Century Research and Policy Conference" ที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การดำเนินงานของเฟดมีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่า กฎระเบียบที่เฟดนำมาใช้ในภาคธนาคารนั้น มีความเหมาะสมกับขนาด ความซับซ้อน และบทบาทของธนาคารพาณิชย์ที่เฟดกำกับดูแลอยู่ และเชื่อว่ากฎระเบียบเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ภาคธนาคารแบกรับภาระมากเกินไป

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกออสเตรเลียร่วงลง 0.6% ในเดือนส.ค. หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งนับเป็นสถิติที่ปรับตัวลดลง 2 เดือนติดต่อกันแล้ว

สำหรับยอดขายในรัฐควีนส์แลนด์และเขตออสเตรเลียนแคพิทอลเทอร์ริทอรีนั้น ลดลง 0.8% แทสเมเนียและนอร์เทิร์นเทอร์ริทอรี ลดลง 0.7% ออสเตรเลียตอนใต้และเวสเทิร์นออสเตรเลียลดลง 0.6% ในขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์นั้น มีสภาพคล่องมากที่สุด คือลดลง 0.2%

ยอดเกินดุลการค้าเมื่อปรับค่าตามฤดูกาลประจำเดือนส.ค.ของประเทศออสเตรเลียนั้น อยู่ที่ 989 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 850 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สูงกว่าสถิติเกินดุลในเดือนก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 808 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

สำนักงานสถิติออสเตรเลีย เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.0% หลังจากได้รับแรงหนุนจากมูลค่าการส่งออกสินแร่เหล็กที่ปรับตัวขึ้นถึง 10% แต่มูลค่าการส่งออกถูกจำกัดด้วยมูลค่าการส่งออกถ่านหินที่ร่วงลงไป 3%