ดาวโจนส์ร่วงครั้งแรกในรอบ 8 วัน ขณะนักลงทุนผิดหวังตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 6, 2017 20:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ โดยปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วัน ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้ เพื่อหาทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากที่ถ้อยแถลงเมื่อวานนี้ของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก และนายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย ต่างก็ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

เจ้าหน้าที่เฟดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ได้แก่ นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา, นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส, นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก และนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์

ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,748.68 จุด ลดลง 29.07 จุด หรือ 0.13%

อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน

หุ้นกลุ่มสื่อสารดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโบอิ้งร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวสวนทางตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นเช่นกัน เนื่องจากนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงในเดือนก.ย.ได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆยังคงบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย.จะไม่ส่งผลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ ในการเปิดเผยตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ พบว่าเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. หรือเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ สู่ระดับ 26.55 ดอลลาร์ และเท่ากับพุ่งขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสูงกว่าระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด สิ่งนี้หมายความว่าเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 2.387% หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.916% หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจในรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และอีกหลายรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐต้องปิดกิจการ ส่งผลให้แรงงานจำนวนมากประสบภาวะตกงานชั่วคราว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4%

มีการคาดการณ์กันว่า ตัวเลขการจ้างงานจะพุ่งขึ้นในเดือนต.ค.และพ.ย. จากการที่ภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการ และบริษัทในภาคก่อสร้างทำการซ่อมแซม และบูรณะเขตที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 138,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 169,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.ย. ภาคเอกชนมีการจ้างงานลดลง 40,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 7,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 63.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ