ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 14.88 จุด หลังเงินปอนด์ร่วงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 7, 2017 05:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองเกี่ยวกับอนาคตของนางเทเรซ่า เมย์ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 14.88 จุด หรือ +0.20% ปิดที่ 7,522.87 จุด ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีพุ่งขึ้น 2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ฟุตซี่ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ในรอบ 8 วันทำการ โดยได้รับอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลดีต่อรายได้และผลกำไรในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอังกฤษ โดย ณ เวลาหนึ่ง ค่าเงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับ 1.3035 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสี่สัปดาห์ จากระดับ 1.3118 ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กในคืนวันพฤหัสบดี และร่วงลง 0.6% สู่ระดับ 1.1130 ยูโร จาก 1.1202 ยูโรในวันพฤหัสบดี

นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงนั้น เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในพรรครัฐบาลที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองอังกฤษ จนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เรื่องการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ประกอบกับความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในกระบวนการ Brexit สืบเนื่องจากการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปไม่มีความคืบหน้ามากนัก

คอนนอร์ แคมป์เบล นักวิเคราะห์จาก SpreadEx กล่าวว่า "การอ่อนค่าลงของสกุลเงินปอนด์ในวันนี้มีสาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งภายในพรรคอนุรักษ์นิยมของรัฐบาล"

ทั้งนี้ มีกระแสคาดการณ์ว่าอาจจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ ขณะที่หลายฝ่ายยังไม่มั่นใจว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี จะสามารถควบคุมสถานการณ์ความขัดแย้งภายในได้หรือไม่ ในขณะเดียวกันการเจรจากับสหภาพยุโรปเรื่องการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปก็ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าไรนัก

อย่างไรก็ดี ในวันศุกร์ นางเทเรซ่า เมย์ ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าเธออาจต้องลงจากเก้าอี้นายกฯ โดยยืนยันว่าเธอยังคงได้รับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรี

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้นเซนทริกา บริษัทสาธารณูปโภคข้ามชาติ ร่วง 1.69% หุ้นอีซี่เจ็ทร่วง 1.64% หลังทางสายการบินต้นทุนต่ำได้ออกมาเปิดเผยคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงินปัจจุบันที่สร้างแรงกดดันให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม หุ้นมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ร่วง 1.52%

ด้านหุ้นบวกนำโดย เอ็นเอ็มซี เฮลธ์ บริษัทด้านการดูแลสุขภาพ พุ่ง 4.26% หุ้นเมดิคลินิก อินเตอร์เนชั่นแนล บวก 3.31% และหุ้นไดเรค ไลน์ อินชัวรันซ์ กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.42%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ