ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 20.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 22 จุด หรือ 0.10% สู่ระดับ 22,852 จุด
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้นในเดือนต.ค. โดยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 30.2 จากระดับ 24.2 ในเดือนก.ย.
ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. และ 3-4 ครั้งในปีหน้า ถ้าหากว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐยังคงปรับตัวลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น
นายโรเซนเกรนกล่าวว่า ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ขณะที่อัตราการว่างงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี ก็จะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไป
นายโรเซนเกรนระบุว่า การที่จะทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% นั้น เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าระดับที่คาดไว้ในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
ทางด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้กล่าวสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถึงแม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเฟดก็ตาม โดยนางเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างมั่นคง ขณะที่ตลาดแรงงานอยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้