ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 167.80 จุด รับผลประกอบการแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 25, 2017 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ และ 3M นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวได้ดีในเดือนต.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ รวมทั้งการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,441.76 จุด เพิ่มขึ้น 167.80 จุด หรือ +0.72% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,569.13 จุด เพิ่มขึ้น 4.15 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,598.43 จุด เพิ่มขึ้น 11.60 จุด หรือ +0.18%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ ผู้ผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.95 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.27 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 1.141 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.065 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านบริษัท 3M เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ในไตรมาส 3 ที่ระดับ 8.172 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 7.927 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.33 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.21 ดอลลาร์

ส่วนบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 1.32 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.12 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่รายได้อยู่ที่ระดับ 3.36 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.272 หมื่นล้านดอลลาร์

ทางด้านบริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายในสหรัฐพุ่งขึ้น 4.1% ในไตรมาส3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.6% ขณะที่รายได้อยู่ที่ระดับ 5.8 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.7 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้ ขณะที่หุ้น 3M ทะยานขึ้น 3.9% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2552 ส่วนหุ้นแมคโดนัลด์ ปรับตัวขึ้น 0.3% และหุ้น GM พุ่งขึ้น 3%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.ของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 54.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน จากระดับ 53.1 ในเดือนก.ย. ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนต.ค. อยู่ที่ 55.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.3 ในเดือนก.ย.

อย่างไรก็ตาม หุ้นเวิลด์พูล ร่วงลง 11% หลังจากบริษัทเซียร์ส โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศว่า ทางบริษัทจะยุติความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดำเนินมานานร่วม 100 ปีกับเวิลด์พูล โดยจะยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเวิลด์พูล เนื่องจากทั้งสองบริษัทไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องของราคา ทั้งนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นเวิลด์พูล ได้สะกัดแรงบวกของดัชนี S&P500

ส่วนหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ด้านการบินและอวกาศ ปรับตัวลง 0.93% แม้ทางบริษัทได้เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.506 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.498 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.73 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.69 ดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยชื่อว่าที่ประธานเฟด ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในวันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยขณะนี้ปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาบุคคลอย่างน้อย 3 คน ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน, นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย., ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ