ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 71.40 จุด รับผลประกอบการสดใส,สภาผู้แทนฯสหรัฐไฟเขียวงบประมาณ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 27, 2017 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และทวิตเตอร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไฟเขียวร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับวุฒิสภา ซึ่งจะเป็นการปูทางให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ามาตรการปฏิรูปภาษี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,400.86 จุด เพิ่มขึ้น 71.40 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,560.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,556.77 จุด ลดลง 7.12 จุด หรือ -0.11%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดีดตัวขึ้น ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งรายงานที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับของวฺฒิสภา วงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อวานนี้ ด้วยคะแนนเสียง 216 ต่อ 212 นับเป็นการกรุยทางสู่การพิจารณาแผนปฏิรูประบบภาษีของปธน.ทรัมป์ต่อไป

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 1.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 63% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับโครงสร้างผู้บริหาร ยอดขายรถปิ๊คอัพที่แข็งแกร่ง ตลอดจนการปรับลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง

หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 18.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2560 หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 3 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 21 ล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 103 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากการดำเนินนโยบายปรับลดต้นทุนและการมีแหล่งรายได้ใหม่ๆ

หุ้นดูปองท์ พุ่งขึ้น 2.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีท ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลง อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง และจากรายงานข่าวที่ว่า อเมซอนดอทคอม ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการด้านเวชภัณฑ์ในหลายรัฐของสหรัฐ ให้เป็นผู้ค้าส่งสินค้าด้านเวชภัณฑ์ ทั้งนี้ หุ้นเซลจีน ทรุดฮวบลง 16.4% หุ้นบริสทอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ร่วงลง 4.8% หุ้น AbbVie ร่วงลง 2.4% หุ้นทาเนท เฮลธ์แคร์ ร่วงลง 9.2% หุ้นนูทรีซิสเต็ม ดิ่งลง 10.5%

นักลงทุนยังคงจับตาการเลือกผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ขณะที่รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน ได้หลุดโผรายชื่อผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้มาทำหน้าที่ประธานเฟดคนใหม่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศผลการตัดสินใจว่าจะเสนอชื่อใครให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 233,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 235,000 ราย

ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 106 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.4% นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 6.09 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่ขยายตัว 0.8% โดยสต็อกสินค้าภาคส่งเดือนก.ย.ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 0.4%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ