ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) ด้วยแรงฉุดจากหุ้นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างเน็กซ์ และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งร่วงลงหลังเปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2560
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 5.12 จุด หรือ -0.07% ปิดที่ 7,487.96 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ถูกกดดันจากหุ้นบริษัทค้าปลีกชั้นนำอย่างเน็กซ์ ซึ่งดิ่งลงถึง 9.1% ภายหลังจากบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่รายนี้ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรก่อนหักภาษีและยอดขายในปีนี้ แม้ว่ายอดขายในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปีก็ตาม
หุ้นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆ ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 4.5% ขณะที่หุ้นแอสโซซิเอทเต็ด บริติช ฟู้ดส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพรีมาร์ค ร่วงลง 2.1%
หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ดิ่งลง 6.1% ถึงแม้ทางธนาคารจะเปิดเผยว่ามีกำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวสู่ระดับ 774 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่น่าจับตา หุ้นอันโตฟากัสตา เพิ่มขึ้น 1.6% หุ้นแองโกล อเมริกัน เพิ่มขึ้น 3.4% และหุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 3.5%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของอังกฤษที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยผลการสำรวจว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรดีดตัวขึ้นแตะระดับ 56.3 ในเดือนต.ค. จากระดับ 56.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ เพื่อดูว่า BoE จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งประวัติศาสตร์หรือไม่