ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวผันผวนวันนี้ ขณะที่นักลงทุนได้ซึมซับข่าวคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูความคืบหน้าของนโยบายการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐ และผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ทำหน้าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,552.47 จุด ลดลง 41.59 จุด, -0.15% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 33,615.84 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด, +0.05% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,740.21 จุด ลดลง 3.72 จุด, -0.21%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ พร้อมกับระบุว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ขณะที่พายุเฮอร์ริเคนไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทำเนียบขาวได้แจ้งให้นายเจอโรม พาวเวล รับทราบแล้วว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะเลือกเขาให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายพาวเวลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันเตรียมเปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับใหม่ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากที่ล่าช้าจากกำหนดการเดิมหนึ่งวัน โดยคาดว่า แผนปฏิรูปดังกล่าวจะมุ่งปรับลดภาษีคิดเป็นมูลค่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
นายเควิน เบรดี ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายภาษีของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บรรดาผู้กำหนดนโยบายจากพรรครีพับลิกันต่างก็ตั้งเป้าที่จะปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากระดับ 35% ในปัจจุบัน ลงสู่ระดับ 20% เป็นการถาวร แต่เขายอมรับว่า การจะไปถึงจุดนั้นได้อาจต้องผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนต.ค. ในวันพรุ่งนี้