ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 81.25 จุด ขานรับ "ทรัมป์" เสนอชื่อ "พาวเวล" นั่งปธ.เฟดคนใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 3, 2017 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,516.26 จุด เพิ่มขึ้น 81.25 จุด หรือ +0.35% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,579.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,714.94 จุด ลดลง 1.59 จุด หรือ -0.02%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า โดยทรัมป์ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จุดยืนอันมั่นคงทางด้านนโยบายการเงินและความรอบรู้ของนายพาวเวล จะช่วยนำพาเศรษฐกิจสหรัฐให้ก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทายต่างๆไปได้ด้วยดี

ตลาดการเงินมองว่า การเสนอชื่อนายพาวเวล วัย 64 ปีให้ทำหน้าที่ประธานเฟดนั้น ถือเป็น "ทางเลือกที่ปลอดภัย" สำหรับคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ เนื่องจากนายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน และในขณะเดียวกันนายพาวเวลก็เปิดกว้างสำหรับมาตรการลดกฎระเบียบในภาคการเงินซึ่งคณะทำงานทรัมป์พยายามผลักดันมาโดยตลอด

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และปรับลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสำหรับธุรกิจขนาดย่อมและองค์กรที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจ ลงสู่ระดับ 25% จากระดับ 39.6% ในปัจจุบัน ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น จะมีการปรับลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษี จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

หุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.6% หุ้น 3M ดีดตัวขึ้น 0.9% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวขึ้น 1.07%

หุ้นแอล แบรนด์ส ทะยานขึ้น 8% ขานรับยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนต.ค. ขณะที่หุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3 ส่วนหุ้นยัม แบรนด์ พุ่งขึ้น 6.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หุ้นเทสล่า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ร่วงลง 6.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่สูงกว่าการคาดการณ์เมื่อวานนี้ ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.1% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

ตลาดนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.0% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2557 ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 229,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 44 ปี และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 235,000 ราย

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ